วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

สวัสดีครับเพื่อนๆ 
วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการปรับแต่งระบบปฎิบัติการวินโดวส์ (Windows) 
ให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นจนเพื่อนๆ บางคนต้องตกใจแน่ๆ ครับ
1. การลบไฟล์ขยะจำพวก Temporaly Files ในเครื่องคอมพิวเตอร์
ไฟล์พวกนี้จะถูกสร้างไว้ชั่วคราวระหว่างที่เรากำลังใ 
ช้งานโปรแกรม หรือ เปิดเว็บไซท์ต่างๆ แต่กลับไม่ถูกลบออกไปเมื่อเราจบการใช้งาน 
อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องลบมันก็ได้ครับ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้มากๆ 
เข้าก็จะทำให้พื้นที่ใน Harddisk ลดลงเรื่อยๆ 
และส่งผลให้เครื่องช้าลงเวลาเปิดเครื่องครับ
1.1 ไปที่ 
        Start > Run พิมพ์ว่า %temp% ลงไปในช่อง Open แล้วกด 
        Enter
1.2 ข้างในเราจะพบ Temporaly Files อยู่ ให้ทำการกด 
       ctrl + A หรือ Edit > Select All 
       เพื่อเลือกไฟล์ทั้งหมดแล้วให้ทำการลบไฟล์ทิ้งทั้งหมด ด้วยการกด Shift ค้างไว้แล้ว 
       Delete
เท่านี้ไฟล์ขยะเหล่านี้ก็จะถูกลบออกไปจากเครื่องของเ พื่อนๆ 
แล้วล่ะครับ ทำให้มีพื้นที่ใน Harddisk 
เพิ่มขึ้นและบางท่านจะพบว่าเครื่องตัวเองรันเข้าวินโ 
ดว์ในตอนแรกได้เร็วขึ้นด้วย
2. การปิด Utility ของโปรแกรมต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน
เมื่อเราลงโปรแกรมต่างๆ ไว้ในเครื่อง 
บางโปรแกรมจะรันตัวเองอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อเริ่มใช ้งานคอมพิวเตอร์ 
ซึ่งจะทำให้เครื่องเราช้าลงถ้ามีมากเกินไป 
เราสามารถที่จะปิดไม่ให้โปรแกรมพวกนี้ทำงานเองอัตโนม 
ัติได้ด้วยวิธีนี้ครับ
2.1 ไปที่ Start > Run พิมพ์ว่า msconfig 
       ลงไปในช่อง Open แล้วกด Enter
2.2 ที่ System Configuration 
       Utility หัวข้อ Service จะเห็นว่ามีตารางโปรแกรมอยู่มากมาย 
       ให้กดเครื่องหมายถูกในช่อง Hide All Microsoft Services 
       เพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอไปปิดการทำงานของวินโดว์ตั วใดตัวหนึ่งเข้า จากนั้นกดปุ่ม 
       Disable All ปิดการทำงานของโปรแกรมต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้วกด Apply 
       ยืนยัน
หมายเหตุ : ในส่วนตรงนี้เพื่อนๆ 
ต้องไม่ลืมกดเพิ่มเครื่องหมายถูกในช่อง Hide All Microsoft Service 
ก่อนที่จะปิดการใช้งานใดๆ เด็ดขาดเลยนะครับ 
เพราะการปิดอะไรของระบบวินโดว์อาจทำให้เครื่องมีปัญห 
าเวลาเริ่มการใช้งานครับ
2.3 ทำการเปิด System 
       Configuration Utility ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วไปที่หัวข้อ Startup 
       ก็จะมีตารางโปรแกรมแสดงขึ้นมาให้เลือก Disable โปรแกรมที่ไม่ได้ใช้หรือกดปุ่ม 
       Disable All เพื่อปิด Startup ทั้งหมดแล้วทำการกด Apply ระบบจะถามถึงการ Restart 
       เครื่องให้เลือกที่จะ Restart ( ถ้าใครทำตรงนี้แล้วมีปัญหาให้กลับมา Enable 
       ตรงส่วนที่ Disble ไปครับ )
หมายเหตุ : เมื่อทำขั้นตอนนี้แล้วพวกโปรแกรมในส่วนของ Tray จะไม่ปรากฎขึ้นมานะครับ 
รวมไปถึงพวกโปรแกรมป้องกันไวรัสต่างๆ ที่มีในเครื่องด้วย ต้องระวังไว้ด้วยครับ 
แต่ถ้าต้องการใช้งานโปรแกรมจะแค่ไปยัง Start > All Programs 
แล้วเลือกใช้งานโปรแกรมจากทางนั้นแทน
2.4 หลัง Restart 
       แล้วจะมีข้อความนี้ขึ้นมาให้ติ้กในช่องแล้ วกด Ok
3. วิธีการทำ Disk Cleanup
3.1 เข้า My Computer > คลิกขวาที่ Drive C > 
       เลือก Properties
3.2 ที่หน้า Properties กดปุ่ม Disk 
       Cleanup
3.3 จะเห็นว่ามีไฟล์ต่างๆ รวมทั้ง Temporaly Internet Files 
       ที่จะมีมากกว่าไฟล์อื่นๆ เพราะจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งเวลาเข้าเว็บไซท์ต่างๆ 
       ติ้กถูกเลือกทุกช่องแล้วกด Ok เพื่อลบไฟล์
4. ปิดระบบช่วยเหลือต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็ว
4.1 ไปที่ Start > Control 
       Panel
4.2 ใน Control Panel กดดับเบิ้ลคลิกตรงไอคอน 
       System
4.3 ใน System Properties ไปตรงหัวข้อ System Restore 
       กดใส่เครื่องหมายถูกที่ Turn off System Restore on all drives 
       เพื่อปิดไม่ต้องให้เครื่องของเราทำการสำรองข้อมูลไว้
หมายเหตุ : ในกรณีนี้ 
ต้องคิดให้ดีก่อนที่ทำนะครับ เพราะถ้ากดปิดระบบในส่วนนี้ไปแล้ว 
ถ้าเกิดเวลาเครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาผิดปกติต่างๆ 
จะไม่สามารถย้อนกลับมายังตอนก่อนที่เครื่องจะมีปัญหา ได้ครับ
4.4 เปิด System Properties อีกครั้งแล้วไปที่หัวข้อ Advanced ให้กดปุ่ม Setting 
       ตรงส่วนของ Performance
4.5 ใน Performance Option จะเห็นเมนูต่างๆ 
       ของ Visual Effect นวินโดว์ โดยเราสามารถที่จะเลือกในช่อง Adjust for best 
       performance เพื่อปิด Visual Effect ทั้งหมด 
       ผลที่ได้คือความเร็วที่เพิ่มขึ้นแต่หน้าตาของวิโดว์อ าจจะดูจืดลงไป

Appdisqus Review : แกะกล่อง Nokia Lumia 720 (ไทย)



รีวิว Lumia 720 ไทย !!!

ทำความรู้จัก windows8 ใน 8 นาที โดย พี่หลาม





ทำความรู้จักกับ Windowe 8 ใน 8 นาที

แบไต๋ไอที วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 1

แบไต๋ ไฮเทค

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต 

บัญญัติ 10 ประการ 

1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น เช่น ไม่เผยแพร่ข้อความกล่าวหาบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ไม่เผยแพร่รูปภาพลามกอนาจาร เป็นต้น

2.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่น เฃ่น การเล่นเกมหรือเปิดเพลงด้วยคอมพิวเตอร์รบกวนผู้อื่นที่อยู่ไกล้เคียง 

3.ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต

4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร

5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ 

6.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต

7.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์

8.ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง

9.ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน

10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติำกาและมีมารยาทของหน่วยงาน สถาบันหรือสังคมนั้น ๆ

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับ บล๊อค ของผม กด +1 ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณ


CD:กระผม ' นรภัทร 

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


ยินดีต้อนรับ :')) 
ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ส่วนที่ทำหน้าที่เป็นคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออาจเรียกว่า “ โปรแกรม ” ก็ได้ ซึ่งหมายถึงคำสั่งหรือชุดคำสั่ง สามารถใช้เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน เราต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรก็เขียนเป็นคำสั่งที่จะต้องสั่งเป็นขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนต้องทำอย่างละเอียดและครบถ้วนก็จะเรียกว่า นักเขียนโปรแกรม (Programmer) สำหรับการเขียนโปรแกรมดังกล่าวใช้ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ หรือหมายถึง ภาษาที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาเบสิก ภาษาโคบอล ภาษาปาสคาล เป็นต้น โปรแกรมที่เขียนขึ้นมาก็จะนำไปใช้ในงานเฉพาะอย่าง เช่น โปรแกรมสต็อกสินค้าคงคลัง โปรแกรมคำนวณภาษี โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน เป็นต้น


ประเภทของซอฟต์แวร์  ซอฟต์แวร์จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ประเภท คือ
1.  ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
2.  ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ( Application Software)

ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
คือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อปฏิบัติการกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และเพื่อจัดเตรียมและบำรุงรักษาแพลตฟอร์มจากการทำงานของโปรแกรมประยุกต์ 
ซอฟต์แวร์ระบบพื้นฐานที่สุดมีดังนี้
    ***ไบออสของคอมพิวเตอร์และเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ ซึ่งมีเครื่องมือพื้นฐานสำหรับปฏิบัติการและควบคุมฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อหรือติดตั้งในคอมพิวเตอร์
    ***ระบบปฏิบัติการ (ตัวอย่างที่เด่น ๆ เช่น ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ แมคโอเอสเท็น และลินุกซ์) ซึ่งแบ่งสรรให้ส่วนต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกันโดยรับภาระงานอาทิ การส่งผ่านข้อมูลระหว่างหน่วยความจำกับจานบันทึก หรือการส่งข้อมูลออกทางอุปกรณ์แสดงผล และยังมีแพลตฟอร์มเพื่อทำงานซอฟต์แวร์ระบบระดับสูงและโปรแกรมประยุกต์ด้วย

โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utilities Program)
  เรียกสั้นๆ ว่า ยูทิลิตี้ เป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ส่วนมากใช้เพื่อบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ คุณสมบัติการใช้งานนั้นค่อนข้างหลากหลาย ยูทิลิตี้แบ่งออกเป็นสองชนิดคือ ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility program) และ ยูทิลิตี้อื่นๆ (stand-alone utility program)

ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software)
ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน  เป็นซอฟต์แวร์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่สามารถ ทำงานอื่นได้  เช่น โปรแกรมระบบบัญชี โปรแกรมเพื่องานออกแบบ โปรแกรมช่วยงานอุตสาหกรรม เป็นต้น เช่น

1. โปรแกรมระบบบัญชี (Accounting) เช่น ระบบบัญชีเงินเดือน ลูกหนี้ ระบบเช่าซื้อบัญชี แยกประเภท
2. โปรแกรมช่วยงานอุตสาหกรรม CAM (Computer-Aided Manufactory and Composition And Make-up) ซอฟต์แวร์ชนิดนี้ใช้สำหรับงานด้านอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เช่น ใช้คอมพิวเตอร์ดูแลและควบคุมเครื่องจักรกลแทนคน หรืองานประเภทที่ต้องทำซ้ำๆ กัน ครั้งละมากๆ (Mass-production)

ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป (General purpose Software)

จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับงานทั่ว ๆ ไป สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานส่วนตัวได้อย่างหลากหลาย ทำให้เป็นซอฟต์แวร์ประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานอยู่ในเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์
        ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป สามารถแบ่งตามประเภทของงานได้ดังนี้
            ***ซอฟต์แวร์ตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Spreadsheet)
            ธุรกิจในสมัยก่อนนั้นการทำงบประมาณ หรือการวางแผนต่าง ๆ ต้องใช้กระดาษบัญชีและเครื่องคิดเลขเท่านั้น สำหรับสมัยนี้ด้วยซอฟต์แวร์ตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้สามารถพิมพ์หัวข้อหรือชื่อของข้อมูล และตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ เข้าในคอมพิวเตอร์ โดยที่ในคอมพิวเตอร์จะมีตารางที่เปรียบเสมือนกระดาษบัญชีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถคำนวณได้ตามสูตรที่ผู้ใช้ทำการกำหนด โดยที่สูตรเหล่านั้นจะไม่ปรากฏในช่องของข้อมูลเลย ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้ใช้เปลี่ยนตัวเลขหรือข้อมูลใด ๆ ก็ตาม จะเห็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกันในทันที ปัจจุบันมีผู้ใช้ประโยชน์ของตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่เฉพาะแต่ในทางบัญชีเท่านั้น แต่ยังนิยมใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ บริหารการเงิน และอื่น ๆ อีกมาก
            ***ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word processing)
            ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ต้องติดตั้งโปรแกรมสำหรับงานพิมพ์เอกสารรวมอยู่ด้วย ซึ่งโปรแกรมนี้ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำหรับสร้าง แก้ไข ตรวจสอบ พิมพ์ และจัดเก็บข้อความต่าง ๆ หนังสือที่จำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบันนี้ ส่วนมากก็เริ่มต้นจากการพิมพ์ข้อความลงในคอมพิวเตอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่ประมวลคำ
            ***ซอฟต์แวร์การพิมพ์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Publishing)
            ในสมัยก่อนการจัดทำหนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่าง ๆ นั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมายหลายขั้นตอนซึ่งรวมเรียกว่าการเรียงพิมพ์ โดยที่จะต้องมีผู้ตัดต่อรูปภาพที่ต้องการ วาดกรอบของภาพหรือกรอบหัวเรื่อง และเขียนข้อความ และนำข้อความ ภาพ และกรอบมาประกอบกันตามแบบที่ออกแบบไว้ การทำงานที่ยุ่งยากเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เอกสารเหล่านั้นมีราคาแพง แต่ในปัจจุบันนี้ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมการจัดพิมพ์แบบตั้งโต๊ะ เท่านั้น ก็สามารถที่จะออกแบบงานหรือเอกสารให้เป็นที่น่าสนใจได้ โดยซอฟต์แวร์การพิมพ์แบบตั้งโต๊ะจะมีความสามารถด้านการจัดการเอกสาร ความสามารถด้านการเรียงพิมพ์ รวมทั้งการจัดสีที่สูงกว่าซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ
            ***ซอฟต์แวร์นำเสนอ (Presentation Software)
            เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ โดยอาจประกอบด้วยตัวอักษร รูปภาพ แผนผัง รายงาน ตลอดจนภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น นิยมใช้ในการเรียนการสอน หรือการประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้การบรรยายนั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น
            ***ซอฟต์แวร์กราฟิก (Graphic Software)
            เป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้างภาพกราฟิกแบบต่าง ๆ การใช้งานในระดับเบื้องต้นอาจนำไปใช้ประกอบการสร้างเอกสาร หรือการนำเสนอข้อมูล ส่วนการใช้ในระดับสูงอาจใช้สำหรับการตกแต่งภาพหรือรูปถ่าย หรือใช้สำหรับงานด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม วิศวกรรม เป็นต้น
            ***ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database)
            โปรแกรมฐานข้อมูลเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ เก็บไว้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยโปรแกรมจะมีเครื่องมือต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการจัดการแฟ้มข้อมูล เช่น มีเครื่องมือสำหรับการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ หรือสามารถเรียกแฟ้มข้อมูลนั้นขึ้นมาแสดงบนจอภาพโดยกำหนดเงื่อนไขให้เลือกข้อมูลมาแสดงเพียงบางส่วน เป็นต้น
            ***ซอฟต์แวร์สื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunication Software)
            ถ้าผู้ใช้ต้องการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไป สามารถทำได้โดยใช้ซอฟต์แวร์สำหรับติดต่อสื่อสารข้อมูล ซอฟต์แวร์ประเภทนี้จะจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นเทอร์มินัล (terminal) ที่สามารถติดต่อไปยังระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้หลายคนได้โดยใช้สายโทรศัพท์ในการโทรติดต่อ และเมื่อติดต่อได้แล้วก็จะสามารถใช้งานระบบต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่องนั้นได้ เสมือนกับนั่งใช้เครื่องอยู่ข้าง ๆ เครื่องที่เราติดต่อเข้าไป การใช้งานที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น ร่วมคุยกับกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนจดหมายกับผู้อื่นในระบบหรือแม้กระทั่งจองตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
            ***ซอฟต์แวร์ค้นหาข้อมูล (Resource Discovery Software)
            หมายถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่ต้องการ จากแหล่งข้อมูลในที่ต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบันนี้ความนิยมในการใช้การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเตอร์เนต หรือเครือข่ายเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ช่วยให้สามารถเรียกค้นข้อมูลที่ต้องการทราบได้จากทั่วโลก ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ เช่น Archie , Gopher และ World Wide Web เป็นต้น


CD::https://sites.google.com/site/thekno31102/sxftwaeru-laea-kar-leuxk-chi